สำหรับผู้ที่เพิ่งก้าวเข้ามาสู่วงการเทรดก็อาจจะยังไม่รู้ว่า MetaTrader 4 คืออะไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร และสามารถใช้เทรดอะไรได้บ้าง วันนี้เราเลยจะมาแนะนำให้รู้จัก MetaTrader 4 หรือ MT4 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเทรดออนไลน์ที่นิยมใช้งานกันทั่วโลก ด้วยเทมเพลตที่ใช้งานง่ายและยังมีคุณสมบัติต่าง ๆ มากมาย เทรดเดอร์จึงสามารถสร้างกลยุทธ์การเทรดได้หลายแบบรวมไปถึงการปิดออเดอร์แบบอัตโนมัติเมื่อราคาอยู่ในจุดที่ต้องการด้วยเช่นกัน
MT4 กับ MT5 ต่างกันอย่างไร
MT4 กับ MT5 ต่างก็เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ต่าง ๆ เหมือนกัน สำหรับ MetaTrader 4 (MT4) จะได้รับความนิยมสูงในการซื้อขาย Forex เป็นอย่างมาก MT4 พัฒนาขึ้นมาตั้งแต่ปี 2005 โดยบริษัท MetaQuotes Software Corp. ซึ่ง MT4 สามารถรองรับการใช้งานได้บน Window, Mac, iOS และ Android รวมถึงยังติดตั้ง Expert Advisors และ Indicators อื่น ๆ ได้ มีระบบ Multi Charting ที่แสดงผลกราฟราคาพร้อมกันหลายหน้าต่างได้อีกด้วย
ส่วน MetaTrader 5 (MT5) ก็เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ต่าง ๆ ที่พัฒนาขึ้นมาจาก MT4 อีกทีในปี 2010 แม้จะยังได้รับความนิยมไม่มากเท่า MT4 แต่ MT5 ก็มีฟีเจอร์ต่าง ๆ เพิ่มเข้ามามากขึ้น มีกรอบเวลาให้เลือกเยอะขึ้น รองรับการใช้งานได้บน Window, Mac, iOS และ Android เหมือนกัน รองรับการติดตั้ง Expert Advisors และ Copy Trading ทำให้การเทรดง่ายขึ้น แต่ไม่สามารถใช้งานร่วมกับ MT4 โดยตรงได้เพราะใช้โปรแกรมภาษาที่ต่างกัน
เนื่องจาก MT4 นั้นถูกพัฒนาออกมาก่อนและยังเป็นต้นแบบในการพัฒนา MT5 ดังนั้น MT5 จึงมีฟังก์ชันและการปรับแต่งที่มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นกรอบเวลาของ MT4 ที่มีแค่ 9 กรอบเวลา แต่ MT5 จะมี 21 กรอบเวลา MT4 มีคำสั่งซื้อ 4 ประเภทกับอินดิเคเตอร์มากกว่า 30 ตัว MT5 มี 6 ประเภทกับอินดิเคเตอร์มากกว่า 38 ตัว MT4 รองรับการติดตั้งเฉพาะ EA แต่ MT 5 จะรองรับทั้ง EA และ Copy Trading ภาษาที่ใช้เขียนโปรแกรมของ MT4 ใช้ MQL ส่วน MT5 จะใช้ C++
ข้อแตกต่างระหว่าง MT4 กับ MT5
– MT5 จะมีฟีเจอร์พิเศษอื่น ๆ เพิ่มเข้ามามากกว่า MT4
– MT4 มี 9 กรอบเวลา ส่วน MT5 มี 21 กรอบเวลา
– MT4 มีคำสั่งซื้อ 4 ประเภท ส่วน MT5 มีคำสั่งซื้อ 6 ประเภท
– MT4 มีอินดิเคเตอร์มากกว่า 30 ตัว ส่วน MT5 มีอินดิเคเตอร์มากกว่า 38 ตัว
– MT4 รองรับการติดตั้ง Expert Advisors (EA) ส่วน MT5 จะรองรับการติดตั้งทั้ง EA และ Copy Trading
– MT4 พัฒนาขึ้นมาด้วยภาษา MQL ส่วน MT5 จะเป็นภาษา C++
ข้อดีและข้อเสียของ MT4
เนื่องจาก MT4 นั้นได้รับความนิยมจากเทรดเดอร์ทั่วโลกมากกว่า MT5 เราจึงจะมาแนะนำกันว่าข้อดีและข้อเสียของ MT4 มีอะไรบ้าง
MT4 มีข้อดีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความสะดวก ปลอดภัย ใช้งานง่าย มีระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติเพื่อไม่ให้พลาดเหตุการณ์สำคัญ มีช่องทางการทำธุรกรรมที่หลากหลาย มีข้อมูลข่าวสารการลงทุนให้ติดตามได้ฟรี เครื่องมือวิเคราะห์มีให้เลือกใช้หลายแบบ การเปิดใช้งานก็ทำได้ทั้งบนเว็บเบราว์เซอร์ PC และยังดาวน์โหลดเป็นแอปพลิเคชั่นลงบนมือถือได้ ส่วนข้อเสียก็อาจจะแสดงผลได้ช้ากว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น และมีข้อจำกัดในการปรับแต่งมากกว่าด้วยเช่นกัน
ข้อดีของ MT4
– MT4 มีความสะดวกและปลอดภัย ระบบการเก็บข้อมูลจะใช้เทคโนโลยีเข้ารหัสที่ซับซ้อน ข้อมูลทั้งหมดของผู้ใช้งานจึงเป็นความลับ
– MT4 มีการเก็บประวัติการลงทุนเอาไว้ ช่วยให้นำข้อมูลมาใช้ปรับปรุงแนวทางการเทรดได้
– MT4 มีเครื่องมือวิเคราะห์หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น Indicators ต่าง กราฟแท่งเทียน ดัชนี ดังนั้นเทรดเดอร์จึงนำข้อมูลมาใช้ตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
– MT4 มีช่องทางทำธุรกรรมที่หลากหลาย ฝาก-ถอนเงินได้ผ่านธนาคารชั้นนำเกือบทุกแห่งในประเทศไทย และยังอัปเดตยอดให้รวดเร็ว
– MT4 มีระบบการแจ้งเตือนอัตโนมัติทำให้เทรดเดอร์ไม่พลาดทุกเหตุการณ์สำคัญที่มีผลต่อการซื้อขาย
– MT4 มีข้อมูลข่าวสาร แนวทางการเทรด รวมไปถึงเทคนิคต่าง ๆ มาให้ติดตามได้ฟรี
– MT4 ใช้งานได้ทั้งบนเว็บเบราว์เซอร์และการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น รองรับทั้งระบบ Window, Mac, iOS และ Android
ข้อเสียของ MT4
– MT4 อาจแสดงผลได้ช้ากว่าแพลตฟอร์มอื่นบางแห่งโดยเฉพาะในกรณีที่ความเร็วอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้งานไม่ค่อยดีนัก ซึ่งอาจทำให้ช้ากว่าตลาดประมาณ 1-2 วินาที
– ถ้าเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นหรือ MT5 แล้ว MT4 จะมีข้อจำกัดในการปรับแต่งหรือฟังก์ชันต่าง ๆ ที่น้อยกว่า
การใช้งาน MT4 บนเว็บเบราว์เซอร์ PC และแอปพลิเคชั่นมือถือ
เพราะ Metatrader4 คือแพลตฟอร์มการเทรดที่ใช้งานได้บนอุปกรณ์ออนไลน์ครบทุกรูปแบบ สิ่งที่การใช้งานบน PC และมือถือมีเหมือนกันคืออินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย พัฒนาขึ้นมาโดยใช้หลัก UX/UI ทำให้ผู้ใช้งานไม่สับสน ตั้งค่าภาษาที่ต้องการได้หลายภาษา มีฟีดข่าว ฟังก์ชั่น และเครื่องมือวิเคราะห์ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก รวมถึงยังสามารถอัปโหลดเครื่องมือเพิ่มเติมและปรับแต่งได้ตามสะดวก
แม้ Metatrader4 จะใช้งานร่วมกันได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน แต่การเปิดใช้งานบน PC จะได้หน้าจอที่กว้างกว่า มองกราฟต่าง ๆ ได้ง่ายกว่า ไม่ถูกจำกัดขนาดหน้าจอเหมือนการใช้งานบนมือถือ ฟังก์ชั่นการใช้งานบน PC ก็จะมีมากกว่าเล็กน้อย เพียงแต่การใช้งานบนมือถือจะสะดวกกว่า PC ตรงที่สามารถใช้งานตอนออกไปข้างนอกได้ด้วย
ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ MetaTrader 4
สำหรับฟีเจอร์หรือคุณสมบัติต่าง ๆ ของ MetaTrader 4 ก็มีอยู่หลายอย่าง ตัวอย่างเช่น
ฟีเจอร์หรือคุณสมบัติพิเศษของ MT4 ก็มีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือควบคุมและจัดการบัญชีซื้อขาย เครื่องมือวิเคราะห์ ติดตามประวัติการซื้อขาย ตัวเลือกตั้งค่าปิดออเดอร์ซื้อขายอัตโนมัติโดยมีคำสั่งซื้อขายหลายแบบ มีรูปแบบกราฟราคาหลายชนิดและแสดงผลกราฟพร้อมกันได้หลายหน้าต่าง มีกรอบเวลาให้เลือกตั้งแต่ 1 นาทีไปจนถึง 1 เดือน รวมถึงยังดาวน์โหลดเป็นแอปพลิเคชั่นมาติดตั้งบนมือถือได้ฟรี
– เครื่องมือควบคุมและจัดการบัญชีซื้อขาย
– เครื่องมือวิเคราะห์การซื้อขาย
– เครื่องมือติดตามประวัติการซื้อขายย้อนหลัง
– ตัวเลือกคำสั่งซื้อขายหลายแบบ
– ตัวเลือกตั้งค่าปิดออเดอร์ซื้อขายอัตโนมัติ
– รูปแบบกราฟราคาหลายชนิด
– ระบบแสดงผลกราฟราคาพร้อมกันหลายหน้าต่าง
– มีกรอบเวลา (Time frame) หลายแบบตั้งแต่ 1 นาทีไปจนถึง 1 เดือน
– มีแอปพลิเคชั่นใช้งานบนมือถือให้ดาวน์โหลดฟรี
อินดิเคอเตอร์ที่มีอยู่บน MT4 จะแยกออกมาได้เป็น 4 ประเภทหลักคือ Trend Following ที่ใช้ในการติดตามแนวโน้มราคา Oscillator ที่ใช้ในการวัดการแกว่งตัว Volatility ที่ใช้ในการวัดความผันผวน และ Support/Resistance ที่ใช้สำหรับแนวรับและแนวต้าน
Indicators ที่มีอยู่บน MT4
Indicators หรือตัวชี้วัดทางเทคนิคนั้นเป็นเครื่องมือสำคัญที่เทรดเดอร์ใช้ในการตรวจสอบ ประเมิน ระบุแนวโน้มและความผันผวนของตลาดเพื่อการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ บน MT4 จะมีอินดิเคเตอร์ให้บริการอยู่ 4 หมวดหมู่หลัก ได้แก่
Trend Following: เครื่องมือที่ใช้ในการติดตามแนวโน้ม
Oscillator: เครื่องมือที่ใช้ในการวัดการแกว่งตัว
Volatility: เครื่องมือที่ใช้ในการวัดความผันผวน
Support/Resistance: เครื่องมือสำหรับแนวรับและแนวต้าน
การใช้อินดิเคเตอร์อย่างมีประสิทธิภาพควรใช้ร่วมกัน 2 ตัวขึ้นไปเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมและแม่นยำมากขึ้น
MT4 ใช้เทรดอะไรได้บ้าง
MT4 ก็นับว่าเป็นแพลตฟอร์มในการเทรดที่ครอบคลุมสินทรัพย์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น
– Forex : การซื้อขายสกุลเงินของประเทศต่าง ๆ
– Indices : ดัชนี ตัวชี้วัดของตลาดหุ้น กลุ่มสินทรัพย์มาตรฐานต่าง ๆ ซึ่งก็มีทั้งหุ้นไทยและหุ้นต่างประเทศ
– Commodities : สินค้าโภคภัณฑ์ วัตถุดิบในการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น เงิน ทองแดง ทองคำ ก๊าซธรรมชาติ หรือสินค้าทางการเกษตร เป็นต้น
– Tfex : สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) และสัญญาออปชั่น (Options) ที่อยู่ในการกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
– Cryptocurrency : สกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin Ethereum Litecoin เป็นต้น
MT4 จะไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมอะไรในการใช้งานแพลตฟอร์มโดยตรง แต่ในการซื้อขายบางอย่างหรือทางโบรกเกอร์อาจมีค่าธรรมเนียมอยู่บ้างเล็กน้อย ในส่วนนี้จะต้องตรวจสอบกับทางโบรกเกอร์ของคุณอีกครั้ง
MT4 สามารถใช้เทรดสินทรัพย์ได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Forex ซึ่งเป็นการซื้อขายสกุลเงินของประเทศต่าง ๆ Indices ซึ่งเป็นดัชนี ตัวชี้วัดของตลาดหุ้น กลุ่มสินทรัพย์มาตรฐานต่าง ๆ Commodities ซึ่งเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ วัตถุดิบในการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค Tfex ซึ่งเป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) และสัญญาออปชั่น (Options) และ Cryptocurrency ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin เป็นต้น
MT4 น่าเชื่อถือไหม
MT4 เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายที่เทรดเดอร์หลายคนยกย่องให้เป็นแพลตฟอร์มการเทรด Forex ที่ดีที่สุดในโลก ความปลอดภัยก็มีค่อนข้างสูงเพราะเก็บข้อมูลในรูปแบบของตัวเข้ารหัสและถอดรหัสที่มีประสิทธิภาพ MT4 และ MT5 พัฒนาขึ้นมาโดยบริษัท MetaQuotes Software Corp. ซึ่งก็เป็นบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ชั้นนำของโลก ในปัจจุบัน MetaQuotes มีสำนักงานอยู่ 8 แห่งในประเทศไซปรัส, ออสเตรเลีย, ตุรกี, สิงคโปร์, ปากีสถาน, จีน, ญี่ปุ่น และประเทศไทย
การเทรดบน MT4 จะใช้กราฟและราคาจริง แต่เทรดเดอร์จะต้องส่งคำสั่งซื้อผ่านโบรกเกอร์ ซึ่งเงินลงทุนก็จะเชื่อมอยู่กับโบรกเกอร์ ดังนั้นความปลอดภัยในการเทรดจะขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์มากกว่าแพลตฟอร์ม MT4 การเลือกโบรกเกอร์จะต้องตรวจสอบทั้งสถานะการกำกับดูแล ชื่อเสียง สเปรด รวมไปถึงจะต้องเลือกโบรกเกอร์ที่เป็นผู้ให้บริการ MT4 อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ทำไม MT4 ถึงเป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่ดีที่สุด ?
เทรดเดอร์หลายคนยกย่องให้ MT4 เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ดีที่สุดโดยเฉพาะการเทรด Forex เพราะ MT4 นั้นมีจุดเด่นในการใช้งานที่สะดวกและยังควบคุมความเสี่ยงได้ดีจากคุณสมบัติดังนี้
– One Click Trading ที่ส่งคำสั่งซื้อขายได้อย่างรวดเร็วในคลิกเดียว สามารถส่งคำสั่งบนกราฟด้วย Trade on Chart ได้เลย
– Holistic Portfolio Performance ที่ใช้ในการบันทึกสถิติการเทรดและวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำ มองภาพรวมของพอร์ตได้ง่ายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
– Algo & Auto Trading เพื่อใช้ในการเทรดแบบอัตโนมัติได้ตลอดเวลา
– Take Profit และ Stop Loss ที่กำหนดล่วงหน้าได้ว่าต้องการปิดออเดอร์ที่จุดไหน ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเฝ้าหน้าจอตลอดเวลาเหมือนการเทรดแบบเก่า และยังมี Trailing stop ที่เลื่อนจุด Stop Loss ไปตามราคาตลาดได้
– ไม่จำเป็นต้องปิดออเดอร์ทั้งหมดพร้อมกันเพราะ MT4 สามารถปิดออเดอร์แยกกันได้ ทำให้เทรดเดอร์มีโอกาสได้กำไรมากขึ้นจากแต่ละออร์เดอร์ที่มีต้นทุนซื้อขายแตกต่างกัน
– Template Algorithm Trading ที่เทรดเดอร์สามารถเลือกใช้ในการเทรดได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดขึ้นมาใหม่เอง และยังมีเครื่องมือ Smart Port ที่ใช้ในการปรับแต่งเทมเพลตด้วยตัวเองได้ หรือเทรดเดอร์คนไหนที่เขียนโค้ดเป็นก็ยังสามารถเขียนขึ้นมาเองพร้อมรับสิทธิบัตรได้ด้วย
MT4 เหมาะสำหรับใครบ้าง
MT4 คือแพลตฟอร์มการเทรดที่มีมานานกว่า 10 ปี และยังมีคุณสมบัติหลายอย่างที่ช่วยให้การเทรดง่ายขึ้น โดยทั่วไปแล้ว MT4 เหมาะสำหรับเทรดเดอร์หลายคน ไม่ว่าจะเป็น
MT4 เหมาะสำหรับเทรดเดอร์หลายแบบ ทั้งเทรดเดอร์ที่ชอบการวิเคราะห์เชิงเทคนิค เทรดเดอร์ที่ต้องการเข้าถึงตลาดตลอดเวลา เทรดเดอร์ที่ต้องการความสะดวกและปลอดภัย เทรดเดอร์ที่ต้องการเทรดแบบอัตโนมัติ ไปจนถึงเทรดเดอร์ที่เขียนโค้ดเองได้ ด้วยคุณสมบัติต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายทำให้ MT4 กลายเป็นแพลตฟอร์มเทรดที่เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกคนเลยทีเดียว
– เทรดเดอร์ที่ชอบการวิเคราะห์เชิงเทคนิค เพราะ MT4 มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค 30 รายการ เครื่องมือวิเคราะห์อื่น ๆ อีก 23 รายการ สามารถติดตามการเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างแม่นยำ
– เทรดเดอร์ที่ต้องการเข้าถึงตลาดตลอดเวลา เพราะ MT4 สามารถใช้งานได้ทั้งบน PC และมือถือ เปิดใช้งานพร้อมกันได้สูงสุด 5 เครื่อง มีฟีเจอร์ใช้งานพร้อมกัน 128 หน้าต่างและระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติทำให้ไม่พลาดทุกเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้น
– เทรดเดอร์ที่ต้องการความสะดวกและปลอดภัย เพราะ MT4 มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย และยังเป็นแพลตฟอร์มการเทรดออนไลน์ที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในการเทรด Forex ระดับโลกเลยทีเดียว
– เทรดเดอร์ที่ต้องการเทรดแบบอัตโนมัติ เพราะ MT4 รองรับการติดตั้ง Expert Advisors ซึ่งใช้ในการซื้อขายแบบอัตโนมัติ ปรับแต่งตั้งค่าได้หลายแบบเพื่อให้การเทรดของคุณมีความเสี่ยงน้อยที่สุด
– เทรดเดอร์ที่เขียนโค้ดเองได้ เพราะสามารถใช้ MetaQuotes Language 4 (MQL4) เพื่อปรับปรุงอัลกอริทึมการเทรดขึ้นมาเองได้ เมื่อพัฒนาขึ้นมาแล้วก็จดสิทธิบัตรได้ด้วย รวมถึงยังมีเครื่องมือ Smart Port ที่ใช้ปรับแต่งจากเทมเพลตเดิมได้ เพราะสำหรับ Algorithm Trading มากที่สุด
บทสรุป : MetaTrader 4 คืออะไร ใช้เทรดอะไรได้บ้าง
ตอนนี้เทรดเดอร์มือใหม่ก็น่าจะรู้จักข้อมูลเบื้องต้นกันไปแล้วว่า MetaTrader 4 คืออะไร มีข้อดีอย่างไร และสามารถเทรดอะไรได้บ้าง ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์สายไหน MT4 ก็รองรับการซื้อขายได้ทุกแบบ แม้กระทั่งการเทรด CFDs ที่ใช้ Leverage ในการทำกำไรด้วยเช่นกัน
การเทรดของคุณจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ต่าง ๆ ที่มีมากมายจนสามารถพัฒนากลยุทธ์การเทรดของตัวเองขึ้นมาได้ MT4 สามารถใช้งานได้ผ่านเว็บเบราว์เซอร์โดยตรงได้ ดาวน์โหลดเป็นแอปพลิเคชั่นมาติดตั้งบนมือถือก็ได้ เมื่อล็อกอินเข้ามาแล้วก็เลือกตลาดที่ต้องการ ตั้งค่ากราฟ เลือกเครื่องมือวิเคราะห์ ตั้งค่าการแจ้งเตือน แล้วเริ่มต้นเทรดได้ทันที
References
– Hmarkets, MetaTrader 4 คืออะไร, https://hmarkets.com/th/learn-to-trade/learning-hub/what-is-metatrader-4/
– ATFX, Metatrader 4 คืออะไรและใช้อย่างไร, https://www.atfx.com/th/trading-platforms/metatrader-4/what-is-mt4-and-how-to-use-it
– Top Trader, เรียนรู้วิธีการเทรดด้วย MT4 Step By Step, https://www.toptrader.co.th/manualtrade-step-by-step/
– ZFX, ทำความรู้จัก MetaTrader 4 (MT4) โปรแกรมสำคัญของเทรดเดอร์, https://www.zfx.com/th/academy/metatrader4-18012021/
– Jana Kane/LiteFinance, MetaTrader ( MT4 ) คืออะไร? เรียนรู้วิธีใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ Metatrader 4 นี้ในการซื้อขาย, https://www.litefinance.org/th/blog/for-beginners/metatrader-khux-xari/
– MTrading, แนะนำวิธีใช้โปรแกรม MT4 บนมือถืออย่างง่าย!, https://mtrading.com/th/education/articles/forex-basics/ultimate-mt4-app-tutorial-mobile-trading-th
– FBS, MetaTrader 5 กับ MetaTrader 4: แอปไหนดีกว่ากันในปี 2025?, https://fbs.co.th/th/fbs-academy/traders-blog/metatrader-5-vs-metatrader-4-which-one-is-better-in-2024